พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/95/95
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
เห็นแจ้งในธรรม แล้วถามอย่างนี้ว่า พึงตั้งจิตไว้อย่างไรหนอ พึงน้อมจิตไปอย่างไรพึงทำจิตให้
มีอารมณ์เดียวเกิดขึ้นอย่างไร พึงชักจูงจิตให้เป็นสมาธิได้อย่างไรพึงเห็นสังขารนั้นได้อย่างไร
พึงพิจารณาสังขารอย่างไร พึงเห็นแจ้งสังขารอย่างไรผู้ถูกถามนั้นย่อมตอบเขาตามความเห็น
ความรู้อย่างนี้ว่า พึงตั้งจิตไว้อย่างนี้ ฯลฯพึงเห็นแจ้งสังขารอย่างนี้ สมัยต่อมา เขาเป็นผู้มีปรกติ
ได้ความสงบใจในภายในทั้งได้อธิปัญญาและความเห็นแจ้งในธรรม ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็น
ผู้มีปกติได้ความสงบใจในภายใน ทั้งได้อธิปัญญาและความเห็นแจ้งในธรรม พึงตั้งอยู่ในกุศลธรรม
เหล่านั้นแหละ แล้วกระทำความเพียรให้ยิ่ง เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคล ๔ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลกนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๔
ฉลาวาตสูตร
[๙๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏในโลก ๔ จำพวกเป็นไฉน
คือ บุคคลผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนและไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑ผู้ปฏิบัติเพื่อประ
โยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนจำพวก ๑ ผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อ
ประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑ผู้ปฏิบัติทั้งเพื่อประโยชน์ตนทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑ ดูกรภิกษุ
ทั้งหลายท่อนไม้ที่ทิ้งอยู่ในป่าช้า ไฟติดสองข้าง ตรงกลางเปื้อนคูถ ย่อมไม่สำเร็จประโยชน์แก่
เครื่องไม้ในบ้าน ทั้งไม่สำเร็จประโยชน์ แก่เครื่องไม้ในป่าฉันใดเรากล่าวบุคคลผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อ
ประโยชน์ตนและไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นนี้เปรียบฉันนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในบุคคลเหล่า
นั้น บรรดาบุคคล ๒ จำพวกนี้คือ บุคคลผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน และไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์
ผู้อื่น กับบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นแต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อ
ประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนเป็นผู้งามกว่าและประณีตกว่าบรรดาบุคคล ๓ จำพวก
คือ บุคคล ผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนและไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น กับบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อ
ประโยชน์ผู้อื่นแต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน และบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อ
ประโยชน์ผู้อื่น บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นนี้ เป็นผู้งามกว่า
และประณีตกว่า บรรดาบุคคล ๔ จำพวกนี้ บุคคลผู้ปฏิบัติทั้งเพื่อประโยชน์ตนทั้งเพื่อประโยชน์ผู้
อื่น เป็นผู้เลิศ เป็นผู้วิเศษ เป็นประธานอุดม และเป็นผู้ประเสริฐ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นมสด