พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/98/98 99

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
เล่ม 21
หน้า 98
ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมไม่ ทั้งหาเป็นผู้มีวาจาไพเราะ กล่าวถ้อยคำอ่อนหวาน ประกอบด้วย วาจาของชาวเมือง อันสละสลวยหาโทษมิได้ ยังผู้ฟังให้เข้าใจเนื้อความไม่ ทั้งไม่ชี้แจงให้เพื่อน พรหมจรรย์เห็นชัด ให้สมาทาน อาจหาญ รื่นเริง บุคคลเป็นผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนทั้งไม่ ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนทั้งเพื่อ ประโยชน์ผู้อื่นอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้สามารถรู้ได้เร็วในกุศลธรรมทั้งหลาย มี ปรกติทรงจำธรรมที่ได้สดับแล้ว มีปรกติใคร่ครวญอรรถแห่งธรรมที่ตนทรงจำไว้ รู้อรรถรู้ธรรมทั่วถึง แล้ว ปฏิบัติธรรมตามสมควรแก่ธรรม ทั้งเป็นผู้มีวาจาไพเราะ กล่าวถ้อยคำอ่อนหวาน ประกอบ ด้วยวาจาของชาวเมือง สละสลวย หาโทษมิได้ ยังผู้ฟังให้เข้าใจเนื้อความ และเป็นผู้ชี้แจงให้ เพื่อนพรหมจรรย์เห็นชัด ให้สมาทาน อาจหาญ ร่าเริง บุคคลเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่นอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล๔ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ จบสูตรที่ ๗ อัตตหิตสูตร
[๙๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๔ จำพวกเป็นไฉน คือ บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑ ผู้ปฏิบัติเพื่อ ประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนจำพวก ๑ ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งไม่ปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑ ผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑ ดูกรภิกษุ ทั้งหลายบุคคล ๔ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ จบสูตรที่ ๘ สิกขาสูตร
[๙๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก๔ จำพวกเป็นไฉน คือ ผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑ ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนจำพวก ๑ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น จำพวก ๑ ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ทั้งปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นจำพวก ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็