พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/98/102 103
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิก
เศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล ท่านพระสารีบุตรผู้มีความปรารถนาน้อย สันโดษ
ชอบสงัด ไม่คลุกคลีด้วยหมู่ ปรารภความเพียรหมั่นประกอบในอธิจิต นั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรง
อยู่ในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาคพระผู้มีพระภาคได้ทรงเห็นท่านพระสารีบุตรผู้มีความปรารถนา
น้อย ... อยู่ในที่ไม่ไกล ฯ
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
ความโศกทั้งหลายย่อมไม่มีแก่ผู้ที่มีจิตยิ่ง ไม่ประมาท เป็นมุนี ศึกษาอยู่ในครอง
แห่งมุนี คงที่ สงบ มีสติทุกเมื่อ ฯ
จบสูตรที่ ๗
๘. สุนทรีสูตร
[๑๐๒] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิก
เศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเป็นผู้ที่มหาชนสักการะ เคารพ
นับถือ บูชา ยำเกรง ทรงได้จีวร บิณฑบาตเสนาสนะและคิลานปัจจัย เภสัชบริขาร แม้
ภิกษุสงฆ์ก็เป็นผู้ที่มหาชนสักการะเคารพ นับถือ บูชา ยำเกรง ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ
และคิลานปัจจัยเภสัชบริกขาร ส่วนพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก เป็นพวกที่มหาชนไม่สักการะ
เคารพ นับถือ บูชา ยำเกรง ไม่ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริกขาร ฯ
[๑๐๓] ครั้งนั้นแล พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก อดกลั้นสักการะของพระผู้มีพระภาค
และสักการะของภิกษุสงฆ์ไม่ได้ เข้าไปหานางสุนทรีปริพาชิกาถึงที่อยู่ ครั้นแล้ว ได้กล่าวกะนาง
สุนทรีปริพาชิกาว่า ดูกรน้องหญิง เธอสามารถเพื่อจะทำประโยชน์แก่ญาติทั้งหลายได้หรือ นาง
สุนทรีปริพาชิกาถามว่า ดิฉันจะทำอะไร พระผู้เป็นเจ้า ดิฉันสามารถเพื่อจะทำอะไร แม้ชีวิต
ดิฉันก็สละเพื่อประโยชน์แก่ญาติทั้งหลายได้ ฯ
อัญ. ดูกรน้องหญิง ถ้าเช่นนั้นเธอจงไปสู่พระวิหารเชตวันเนืองๆ เถิด ฯ
นางสุนทรีปริพาชิกา รับคำของพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นแล้วได้ไปยังพระ
วิหารเชตวันเนืองๆ เมื่อใด พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นได้ทราบว่า นางสุนทรีปริพาชิกา