(ในสูตรอื่นทรงแสดง อุปาทานิยธรรม ด้วยอายตนะภายในหก (๑๘/๑๑๐/๑๖๐) และอายตนะภายนอกหก (๑๘/๑๓๖/๑๙๐).
-(ในสูตรอื่นทรงแสดง อุปาทานิยธรรม ด้วยอายตนะภายในหก (๑๘/๑๑๐/๑๖๐) และอายตนะภายนอกหก (๑๘/๑๓๖/๑๙๐).
เบญจขันธ์ได้นามว่าสักกายะและสักกายันตะ
ภิกษุ ท. ! สักกายะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! คำตอบ คืออุปาทานขันธ์ทั้งห้า. ห้าเหล่าไหนเล่า ? ห้าคือ รูปขันธ์ที่ยังมีอุปาทาน ๑ เวทนาขันธ์ที่ยังมีอุปาทาน ๑ สัญญาขันธ์ที่ยังมีอุปาทาน ๑ สังขารขันธ์ที่ยังมีอุปาทาน ๑ และวิญญาณขันธ์ที่ยังมีอุปาทาน ๑. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า สักกายะ.
ภิกษุ ท. ! สักกายันตะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! คำตอบคือ อุปาทานขันธ์ทั้งห้า. ห้าเหล่าไหนเล่า ? ห้าคือ รูปขันธ์ที่ยังมีอุปาทาน ๑ เวทนาขันธ์ที่ยังมีอุปาทาน ๑ สัญญาขันธ์ที่ยังมีอุปาทาน ๑ สังขารขันธ์ที่ยังมีอุปาทาน ๑ และวิญญาณขันธ์ที่ยังมีอุปาทาน ๑. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า สักกายันตะ แล.