พุทธธัมมเจดีย์อริยสัจจากพระโอษฐ์

พิมพ์คำค้นหาแล้วกดส่ง

อริยสัจจากพระโอษฐ์ > ภาค ๔ > นิทเทศ 14 ว่าด้วย สัมมาทิฏฐิ > หมวด จ. ว่าด้วยอานิสงส์ของสัมมาทิฏฐิ-การเห็นชนิดที่ละมิจฉาทิฏฐิได้
«
»

หน้า:

หมวด จ. ว่าด้วยอานิสงส์ของสัมมาทิฏฐิ-การเห็นชนิดที่ละมิจฉาทิฏฐิได้

ปรับขนาด: 16px

-หมวด จ. ว่าด้วยอานิสงส์ของสัมมาทิฏฐิ

การเห็นชนิดที่ละมิจฉาทิฏฐิได้

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เมื่อบุคคลรู้อยู่อย่างไร เห็นอยู่อย่างไร มิจฉาทิฏฐิ ย่อมละไป พระเจ้าข้า ?”

ภิกษุ ท. ! เมื่อบุคคลรู้อยู่เห็นอยู่ ซึ่ง จักษุ โดยความเป็นของไม่ เที่ยงมิจฉาทิฏฐิย่อมละไป. เมื่อบุคคลรู้อยู่เห็นอยู่ ซึ่ง รูป ท. โดยความเป็นของไม่เที่ยง มิจฉาทิฏฐิย่อมละไป เมื่อบุคคลรู้อยู่เห็นอยู่ ซึ่ง จักขุวิญญาณ โดยความเป็นของไม่เที่ยง มิจฉาทิฏฐิย่อมละไป. เมื่อบุคคลรู้อยู่เห็นอยู่ ซึ่งจักขุ

สัมผัส โดยความเป็นของไม่เที่ยง มิจฉาทิฏฐิย่อมละไป เมื่อบุคคลรู้อยู่เห็นอยู่ซึ่ง เวทนา อันเป็นสุขก็ตาม อันเป็นทุกข์ก็ตาม อันเป็นอทุกขมสุขก็ตาม ที่เกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย โดยความเป็นของไม่เที่ยง มิจฉาทิฏฐิย่อมละไป.

(ในกรณีแห่ง อายตนิกธรรมอีก ๕ หมวดถัดไป คือหมวดโสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ และ มนะ ก็มีข้อความที่ตรัสไว้ด้วยข้อความอย่างเดียวกันกับข้างบนนี้ ต่างแต่ชื่อธรรมที่ต้องเปลี่ยนไปตามหมวดนั้นๆเท่านั้น ; รวมเป็นธรรมที่ถูกรู้เห็นโดยความเป็นอนิจจัง ทั้งหมด ๓๐ อย่าง).

ภิกษุ ท. ! เมื่อบุคคล รู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้แล มิจฉาทิฏฐิย่อมละไป.


อ้างอิง
ไทย: - สฬา.สํ. 18/185/254.
บาลี: - สฬา.สํ. ๑๘/๑๘๕/๒๕๔.

AI ช่วยอ่าน

กรุณาคัดลอกและวางพระสูตรในช่องนี้เพื่อฟังเสียง

×

สารบัญหนังสือ