ทิ้งเสียนั่นแหละกลับจะเป็นประโยชน์
ทิ้งเสียนั่นแหละกลับจะเป็นประโยชน์
ภิกษุ ท. ! สิ่งใด ไม่ใช่ของเธอ, สิ่งนั้น จงละมันเสีย ; สิ่งนั้นอันเธอละเสียแล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ. ภิกษุ ท. ! อะไรเล่า ที่ไม่ใช่ของเธอ ?
ภิกษุ ท. ! จักษุ ไม่ใช่ของเธอ เธอจงละมันเสีย ; จักษุนั้นอันเธอ ละเสียแล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ.
(ในกรณีแห่ง โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ และมโน ก็ได้ตรัสต่อไปด้วยข้อความอย่างเดียวกัน).
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน อะไรๆ ในแคว้นนี้ ที่เป็นหญ้า เป็นไม้ เป็นกิ่งไม้ เป็นใบไม้ ที่คนเขาขนไปทิ้ง หรือเผาเสีย หรือทำตามปัจจัย ; พวกเธอรู้สึกอย่างนี้บ้างหรือไม่ว่า คนเขาขนเราไป หรือเผาเรา หรือทำแก่เราตามปัจจัยของเขา ? “ไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า !” เพราะเหตุไรเล่า ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุไรเล่า ? ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุว่า ความรู้สึกว่าตัวตน (อตตา) ของตน (อตตนิยา) ของข้าพระองค์ไม่มีในสิ่งเหล่านั้น พระเจ้าข้า !”
ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น : จักษุ .... โสตะ .... ฆานะ .... ชิวหา .... กายะ .... มโน ไม่ใช่ของเธอ เธอจงละมันเสีย สิ่งเหล่านั้นอันเธอละเสียแล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ แล.