บริขารเจ็ดของอริยสัมมาสมาธิ
-(พระพุทธภาษิตนี้ มีความหมายลึกอยู่บางประการ จนทำให้มีผู้เข้าใจผิดไปว่า ถ้าจิตมีความเป็นประภัสสรตามธรรมชาติแล้ว ทำไมจึงเศร้าหมองได้เพราะอุปกิเลส; และว่า ถ้าจิตพ้นจากอุปกิเลสกลับไปสู่ความเป็นจิตประภัสสรอย่างเดิมแล้ว มันก็จะกลับเป็นจิตเศร้าหมองเพราะอุปกิเลสได้อีกในภายหลัง สลับกันไปไม่รู้สิ้นสุด ดังนี้. แต่ความจริงมีอยู่ว่า ประภัสสรตามธรรมชาตินั้น ถูกครอบงำด้วยอุปกิเลสได้ จึงต้องทำการภาวนา คืออบรมจิตให้เปลี่ยนสภาพเป็นประภัสสรสมุจเฉท ซึ่งอุปกิเลสจะครอบงำไม่ได้อีกต่อไป. เพราะเหตุนั้นจึงตรัสว่า ผู้รู้ความจริงเรื่องนี้เท่านั้น จึง ประสงค์การเจริญภาวนาอบรมจิต และอบรมจิตได้ตามประสงค์).
บริขารเจ็ดของอริยสัมมาสมาธิ
ภิกษุ ท. ! สมาธิบริขาร ๗ ประการ เหล่านี้ มีอยู่. เจ็ดประการอย่างไรเล่า ? เจ็ดประการ คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมัมตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ.
ภิกษุ ท. ! เอกัคคตาจิตที่แวดล้อมอยู่ด้วยองค์เจ็ดประการเหล่านี้ เราเรียกว่า อริยสัมมาสมาธิ ที่มีที่ตั้งอาศัย บ้าง ที่มีบริขาร บ้าง ดังนี้.