(นี้เป็นเครื่องแสดงว่า สังฆสามัคคีนั้นเป็นพุทธประสงค์และเป็นที่สบพระอัธยาศัย).
หมวด ฉ. ว่าด้วย โทษของการขาดสัมมาสังกัปปะ
อาการเกิดแห่งอกุศลวิตกหรือมิจฉาสังกัปปะ
ภิกษุ ท. ! กามวิตก ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด (นิทาน) ไม่ใช่เกิด อย่างไม่มีเหตุให้เกิด. พ๎ยาปาทวิตก ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด ไม่ใช่เกิดอย่างไม่มีเหตุให้เกิด. วิหิงสาวิตก ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด ไม่ใช่เกิดอย่างไม่มีเหตุให้เกิด.
ก. กรณีกามวิตก
ภิกษุ ท. ! กามวิตก (ความตริตรึกในกาม) ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิดไม่ใช่ เกิดอย่างไม่มีเหตุให้เกิด ; นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยกามธาตุ จึงเกิดกามสัญญา;
เพราะอาศัยกามสัญญา จึงเกิดกามสังกัปปะ;
เพราะอาศัยกามสังกัปปะ จึงเกิดกามฉันทะ;
เพราะอาศัยกามฉันทะ จึงเกิดกามปริฬาหะ (ความเร่าร้อน เพื่อจะได้กาม);
เพราะอาศัยกามปริฬาหะ จึงเกิดกามปริเยสนา (การแสวงหากาม)
ภิกษุ ท. ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ เมื่อแสวงหาอยู่อย่างแสวงหากาม ย่อมปฏิบัติผิดโดยฐานะสาม คือ โดยกาย โดยวาจา โดยใจ.
ข. กรณีพ๎ยาปาทวิตก
ภิกษุ ท. ! พ๎ยาปาทวิตก [ความตริตรึกในพ๎ยาบาท (มุ่งร้าย)] ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด ไม่ใช่เกิดอย่างไม่มีเหตุให้เกิด; นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยพยาปาทธาตุ จึงเกิดพยาปาทสัญญา;
เพราะอาศัยพยาปาทสัญญา จึงเกิดพยาปาทสังกัปปะ;
เพราะอาศัยพยาปาทสังกัปปะ จึงเกิดพยาปาทฉันทะ;
เพราะอาศัยพยาปาทฉันทะ จึงเกิดพยาปาทปริฬาหะ- (ความเร่าร้อนเพื่อจะได้ทำการพยาบาท);
เพราะอาศัยพยาปาทปริฬาหะ จึงเกิดพยาปาทปริเยสนา.
ภิกษุ ท. ! ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ เมื่อแสวงหาอยู่อย่างแสวงหาพยาบาท ย่อมปฏิบัติผิดโดยฐานะสาม คือ โดยกาย โดยวาจา โดยใจ.
ค. กรณีวิหิงสาวิตก
ภิกษุ ท. ! วิหิงสาวิตก [ความตริตรึกในวิหิงสา (เบียดเบียน)] ย่อมเกิดอย่างมีเหตุให้เกิด ไม่ใช่เกิดอย่างไม่มีเหตุให้เกิด; นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุท. ! เพราะอาศัยวิหิงสาธาตุ จึงเกิดวิหิงสาสัญญา;
เพราะอาศัยวิหิงสาสัญญา จึงเกิดวิหิงสาสังกัปปะ;
เพราะอาศัยวิหิงสาสังกัปปะ จึงเกิดวิหิงสาฉันทะ;
เพราะอาศัยวิหิงสาฉันทะ จึงเกิดวิหิงสาปริฬาหะ- (ความเร่าร้อนเพื่อจะได้ทำการเบียดเบียน);
เพราะอาศัยวิหิงสาปริฬาหะ จึงเกิดวิหิงสาปริเยสนา.
ภิกษุ ท. ! ปุถุชนผู้ไม่มีการสดับ เมื่อแสวงหาอยู่อย่างแสวงหาวิหิงสา ย่อมปฏิบัติผิดโดยฐานะสาม คือ โดยกาย โดยวาจา โดยใจ.