หมวด ข. ว่าด้วย ลักษณะ - อุปมา - ไวพจน์ ของสัมมาทิฏฐิ--ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ
-(ผู้ศึกษาพึงสังเกตุให้เห็นว่า สัมมาทิฏฐิ ๆ คำเดียวกันนี้ แยกออกไปได้ อย่างตรงกันข้าม คือพวกหนึ่งมีอาสวะ เป็นไปเพื่ออาสวะ มีส่วนแห่งบุญอันเป็นอุปธิ มีลักษณะเป็นตัวตน หรือเนื่องด้วยตัวตน ส่วนสัมมาทิฏฐิอีกชนิดหนึ่งนั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ไม่มีลักษณะแห่งตัวตน ไม่เกี่ยวข้องกับบุญ แถมยังนำไปสู่โลกุตตระด้วย จึงแบ่งแยกเป็นโลกิยสัมมาทิฏฐิและโลกุตตรสัมมาทิฏฐิ ไม่พึงนำไปปนกัน หรือใช้แทนกันอย่างที่พูดกันอย่างสะเพร่าหรือหละหลวมจนเข้าใจธรรมะในพระพุทธศาสนาไม่ได้ ขอให้ช่วยกันระวังให้มากที่สุด).
หมวด ข. ว่าด้วย ลักษณะ - อุปมา - ไวพจน์ ของสัมมาทิฏฐิ
ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ
ภิกษุ ท. ! ภิกษุเห็น จักษุ อันไม่เที่ยงนั่นแล ว่าไม่เที่ยง ความเห็น เช่นนั้น เป็นสัมมาทิฏฐิ (การเห็นอยู่โดยถูกต้อง) ของภิกษุนั้น.
เมื่อเห็นอยู่โดยชอบ ย่อมเบื่อหน่าย;
เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิ จึงมีความสิ้นไปแห่งราคะ;
เพราะความสิ้นไปแห่งราคะ จึงมีความสิ้นไปแห่งนันทิ;
เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิและราคะ กล่าวได้ว่า “จิตหลุดพ้น แล้วด้วยดี” ดังนี้.
(ในกรณีแห่งอายตนะภายนอกในที่เหลืออีก ๕ คือ โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ มโน และในกรณีแห่งอายตนะภายนอก ๖ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ก็ตรัสอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งจักษุ ทุกประการ).