ข้อควรสรรเสริญหรือควรติเตียนเกี่ยวกับสัมมาวาจา
โปตลิยะ ! บุคคล ๔ จำพวกเหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สี่จำพวก คือ :- โปตลิยะ ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ กล่าวติเตียน บุคคลที่ควรติเตียน ตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร แต่ไม่กล่าวสรรเสริญ บุคคลที่ควรสรรเสริญตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร.
โปตลิยะ ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ กล่าวสรรเสริญ บุคคลที่ควร สรรเสริญตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร แต่ไม่กล่าวติเตียน บุคคลที่ควร ติเตียนตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร.
โปตลิยะ ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ไม่กล่าวติเตียน บุคคลที่ควร ติเตียนตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร และไม่กล่าวสรรเสริญ บุคคลที่ควร สรรเสริญตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร.
โปตลิยะ ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ กล่าวติเตียน บุคคลที่ควร ติเตียนตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร และกล่าวสรรเสริญ บุคคลที่ควร สรรเสริญตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร.
โปตลิยะ ! บุคคลสี่จำพวกเหล่านี้ แล มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. โปตลิยะเอ๋ย ! ในบรรดาบุคคลสี่จำพวกนี้ บุคคลจำพวกไหนเล่า ควรจะเป็น บุคคลที่งดงามกว่า ประณีตกว่า สำหรับท่าน.
“ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ! ในบรรดาบุคคลสี่จำพวกเหล่านั้น บุคคลจำพวกที่ไม่กล่าวติเตียนบุคคลที่ควรติเตียนตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร และไม่กล่าวสรรเสริญบุคคลที่ควรสรรเสริญตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร, บุคคลจำพวกนี้ แลควรจะเป็นบุคคลที่งดงามกว่า ประณีตกว่า สำหรับข้าพระองค์. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? เพราะเหตุว่า นั่น งดงามยิ่งด้วยอุเบกขา”.
โปตลิยะ ! ในบรรดาบุคคลสี่จำพวกเหล่านั้น บุคคลจำพวกใด กล่าวติเตียนบุคคลที่ควรติเตียนตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร และกล่าวสรรเสริญบุคคลที่ควรสรรเสริญตามที่เป็นจริง โดยกาลอันควร; บุคคลจำพวกนี้ เป็น
บุคคลพวกที่งดงามกว่า ประณีตกว่า ในบรรดาบุคคลสี่จำพวกเหล่านั้น. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? โปตลิยะ ! นั่น งดงามเพราะความเป็นผู้รู้กาละในกรณีนั้น ๆ.