เห็นผิดจากธรรมชาติ ก็ ไม่อาจทำให้แจ้งมรรคผล
ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ เมื่อ ตามเห็นสังขารไรๆ โดยความเป็นของเที่ยง อยู่ จักเป็นผู้ประกอบพร้อมด้วยอนุโลมิกขันติ (ความสมควรแก่ อนุโลมิกญาณ) ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ;
ผู้ไม่ประกอบพร้อมด้วยอนุโลมิกขันติ จักหยั่งลงสู่สัมมัตตนิยาม (ระเบียบแห่งความถูกต้อง) ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ;
เมื่อไม่หยั่งลงสู่สัมมัตตนิยามอยู่ จักกระทำให้แจ้งซึ่งโสตาปัตติผล หรือสกทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตตผล ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ;
(ปฏิปักขนัย - ฝ่ายตรงกันข้าม)
ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ เมื่อ ตามเห็นสังขารทั้งปวงโดยความเป็นของไม่เที่ยง อยู่ จักเป็นผู้ประกอบด้วยอนุโลมิกขันติ ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่จะมีได้ ;
ผู้ประกอบพร้อมด้วยอนุโลมิกขันติ จักหยั่งลงสู่สัมมัตตนิยาม ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่จะมีได้ ;
เมื่อหยั่งลงสู่สัมมัตตนิยามอยู่ จักกระทำให้แจ้งซึ่งโสตาปัตติผล หรือสกทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตตผล ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่จะมีได้ .