หมวด ข. ว่าด้วย ลักษณะ-ไวพจน์-อุปมา ของสัมมาวายามะ
ลักษณะของผู้มีความเพียรสี่อิริยาบถ
ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุ เดินอยู่ ถ้า เกิดมีกามวิตก หรือ พ๎ยาปาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ขึ้นมา และภิกษุนั้นก็ ไม่รับเอาวิตกเหล่านั้นไว้ แต่สละทิ้งไป ถ่ายถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ. ภิกษุที่เป็นเช่นนี้ แม้เดินอยู่ก็เรียกว่า เป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัว(ต่อสิ่งลามก) เป็นผู้ปรารภความ เพียร อุทิศตนในการเผากิเลส อยู่เนืองนิจ.
ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุ ยืนอยู่ ถ้า เกิดมีกามวิตก หรือ พ๎ยาปาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ขึ้นมา และภิกษุนั้นก็ ไม่รับเอาวิตกเหล่านั้นไว้ แต่สละทิ้งไป ถ่ายถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ. ภิกษุที่เป็นเช่นนี้ แม้ยืนอยู่ก็เรียกว่า เป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัว (ต่อสิ่งลามก) เป็นผู้ปรารภความเพียร อุทิศตนในการเผากิเลส อยู่เนืองนิจ.
ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุ นั่งอยู่ ถ้า เกิดมีกามวิตกหรือ พ๎ยาปาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ขึ้นมา และภิกษุนั้นก็ ไม่รับเอาวิตกเหล่านั้นไว้ แต่สละทิ้งไป ถ่ายถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ. ภิกษุที่เป็นเช่นนี้ แม้นั่งอยู่ก็เรียกว่า เป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัว (ต่อสิ่งลามก) เป็นผู้ปรารภ ความเพียร อุทิศตนในการเผากิเลส อยู่เนืองนิจ.
ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุ นอนตื่นอยู่ ถ้า เกิดมีกามวิตก หรือ พ๎ยาปาทวิตก หรือวิหิงสาวิตก ขึ้นมา และภิกษุนั้นก็ ไม่รับเอาวิตกเหล่านั้นไว้ แต่สละ
ทิ้งไป ถ่ายถอนออก ทำให้สิ้นสุดลงไปจนไม่มีเหลือ. ภิกษุที่เป็นเช่นนี้ แม้นอนตื่นอยู่ก็เรียกว่า เป็นผู้ทำความเพียรเผากิเลส รู้สึกกลัว(ต่อสิ่งลามก) เป็นผู้ปรารภความเพียร อุทิศตนในการเผากิเลส อยู่เนืองนิจ.