[ ธรรมสิบประการ ซึ่งในสูตรข้างบนนี้ตรัสเรียกว่า ยาถ่าย (วิเรจนํ) : ส่วนในสูตรถัดไปทรงเรียกว่า ยาสำรอกให้อาเจียน (วมนํ); มีข้อความเหมือนกันทุกประการ.
ในสูตรถัดไปอีก ตรัสเรียกธรรมสิบประการนั้น ว่า มนต์เครื่องปัดเป่า (นิทฺธมนํ) สามารถปัดเป่าบาปอกุศลให้สิ้นไป และให้ธรรมที่เป็นกุศลถึงพร้อม แต่ไม่มีกล่าวถึงกับว่า สัตว์ที่มีความเกิดเป็นธรรมดาจะพ้นจากความเกิด เป็นต้น ; ผู้ทำการเสกเป่าพึงพิจารณาดูเถิด.
ในสูตรอื่นอีก (๒๔/๒๓๑/๑๐๗) ตรัสเรียกธรรมสิบประการในข้อความข้างบนนี้ว่า น้ำชำระกระดูกให้บริสุทธิ์ (โธวนํ) ตามประเพณีชาวบ้านที่เขาทำกันอยู่อย่างเป็นพิธีรีตองมาแต่โบราณ แต่น้ำชำระที่เป็นอริยะนี้สามารถชำระบาปอกุศลให้สิ้นไป ทำกุศลให้ถึงพร้อม และเป็นไปเพื่อรู้ยิ่งรู้พร้อม เพื่อนิพพาน และเมื่อสัตว์อาศัยแล้ว สัตว์ที่มีความเกิดเป็นธรรมดา จะพ้นจากความเกิดเป็นต้น]. ธรรมเป็นเครื่องถอนอัส๎มิมานะในปัจจุบัน
ภิกษุ ท. ! นี้เป็นสิ่งที่หวังได้ สำหรับภิกษุผู้มีมิตรดี (กลฺยาณมิตฺต) มีสหายดี (กลฺยาณสหาย) มีพวกพ้องดี (กลฺยาณสมฺปวงฺก) คือ จักเป็นผู้มีศีล
สำรวมด้วยการสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยมารยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานศึกษาในสิกขาบททั้งหลายอยู่ ;
ภิกษุ ท. ! นี้เป็น สิ่งที่หวังได้สำหรับภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีพวกพ้องดี ; กล่าวคือ กถาเป็นเครื่องขูดเกลาอย่างยิ่ง เป็นธรรมเครื่องสบายแก่การเปิดโล่งแห่งจิต ได้แก่อัปปิจฉกถา (เรื่องปรารถนาน้อย) สันตุฏฐิกถา (เรื่องสันโดษ) ปวิเวกกถา (เรื่องความสงัด) อสังสัคคกถา (เรื่องไม่คลุกคลี) วิริยารัมภกถา (เรื่องมีความเพียร) สีลกถา (เรื่องศีล) สมาธิกถา (เรื่องสมาธิ) ปัญญากถา (เรื่องปัญญา) วิมุตติกถา (เรื่องวิมุตติ) วิมุตติญาณทัสสนกถา (เรื่องวิมุตติญาณทัสสนะ), เธอ จักเป็นผู้ได้โดยง่าย ได้โดยไม่ยากไม่ลำบาก ซึ่งกถาเช่นนี้ ;
ภิกษุ ท. ! นี้เป็น สิ่งที่หวังได้สำหรับภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีพวกพ้องดี ; กล่าวคือ จักเป็นผู้มีความเพียรอันปรารภแล้ว เพื่อการละซึ่งอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อการถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย มีกำลัง (จิต) มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย ;
ภิกษุ ท. ! นี้เป็น สิ่งที่หวังได้สำหรับภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีพวกพ้องดี ; กล่าวคือ จักเป็นผู้มีปัญญา ประกอบด้วยปัญญาเครื่องให้รู้ซึ่งความเกิดและความดับ (อุทยตฺถคามินี) อันเป็นปัญญาที่เป็นอริยะ เป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส ให้ถึงซึ่งสิ้นทุกข์โดยชอบ.
ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ผู้ตั้งอยู่ในธรรมห้าประการ๑ เหล่านี้แล้ว พึงเจริญธรรม ๔ ประการให้ยิ่งขึ้นไป คือ :
เจริญ อสุภะ เพื่อ ละ ราคะ ;
เจริญ เมตตา เพื่อ ละ พยาบาท ;
เจริญ อานาปานสติ เพื่อ ตัดเสียซึ่ง วิตก ;
เจริญ อนิจจสัญญา เพื่อ ถอน อัส๎มิมานะ.
ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุมีอนิจจสัญญา, อนัตตสัญญา ย่อมตั้งมั่น ; ผู้มีอนัตตสัญญา ย่อมถึงการถอนเสียได้ซึ่งอัส๎มิมานะ คือ นิพพาน ในทิฏฐธรรมเทียว.