อริยสัจจจินตนา ในฐานะสัมมาสังกัปปะ
ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย อย่ากระทำจินตนาซึ่งความคิดอันเป็นบาป อกุศลว่า โลกเที่ยง หรือว่าโลกไม่เที่ยง, ว่าโลกมีที่สุด หรือว่า โลกไม่มีที่สุด,
ว่าชีวะก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น หรือว่า ชีวะก็อันอื่น สรีระก็อันอื่น, ว่าตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมมีอีก หรือว่า ตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมไม่มีอีก, ว่าตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมมีอีกก็มีไม่มีอีกก็มี หรือว่าตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมมีอีกก็หามิได้ไม่มีอีกก็หามิได้, ดังนี้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า จินดาเหล่านี้ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่เป็นอาทิพรหมจรรย์ ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ไม่เป็นไปเพื่อความดับ ความสงบรำงับ ไม่เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม ไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน.
ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย เมื่อจะทำจินตนา พึงกระทำจินตนาต่อสัจจะที่ว่า “นี้ คือ ทุกข์, นี้ คือ เหตุให้เกิดทุกข์, นี้ คือ ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, นี้ คือ ทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า จินดาเหล่านี้ ประกอบด้วยประโยชน์ จินดาเหล่านี้ เป็นอาทิพรหมจรรย์ จินดาเหล่านี้ เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย ความคลายกำหนัด เพื่อความดับ ความสงบรำงับ เพื่อความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม เป็นไปเพื่อนิพพาน.
ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น เธอทั้งหลาย พึงประกอบโยคกรรมอันเป็นเครื่องกระทำให้รู้ว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดทุกข์ เป็นอย่างนี้, ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้, ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้” ดังนี้.