พุทธธัมมเจดีย์อริยสัจจากพระโอษฐ์

พิมพ์คำค้นหาแล้วกดส่ง

อริยสัจจากพระโอษฐ์ > ภาค ๔ > นิทเทศ 14 ว่าด้วย สัมมาทิฏฐิ > หมวด ช. ว่าด้วย ปกิณกะ--สัสสตทิฏฐิก็อยากอยู่ อุจเฉททิฏฐิก็อยากไป สัมมาทิฏฐิก็อยากดับ
«
»

หน้า:

หมวด ช. ว่าด้วย ปกิณกะ--สัสสตทิฏฐิก็อยากอยู่ อุจเฉททิฏฐิก็อยากไป สัมมาทิฏฐิก็อยากดับ

ปรับขนาด: 16px

-หมวด ช. ว่าด้วย ปกิณกะ

สัสสตทิฏฐิก็อยากอยู่ อุจเฉททิฏฐิก็อยากไป สัมมาทิฏฐิก็อยากดับ

ภิกษุ ท. ! เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย อันทิฏฐิสองอย่างห่อหุ้มแล้ว บางพวก ทรุดลงอยู่ตรงนั้น บางพวก แล่นเตลิดไป ส่วน พวกที่มีจักษุ ย่อมเห็น (ตามที่เป็นจริง).

ภิกษุ ท. ! เทวดาและมนุษย์พวกที่ทรุดลงอยู่ที่ตรงนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! คือเทวดาและมนุษย์ พวกที่มีภพเป็นที่มายินดี ยินดีแล้วในภพ เพลิดเพลินในภพ, เมื่อบุคคลแสดงธรรมเพื่อความดับไม่เหลือแห่งภพ

แก่เทวดาและมนุษย์พวกนั้นอยู่, จิตของเขาก็ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ตั้งอยู่ ไม่น้อมไป. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้เรียกว่า พวกที่ทรุดลงอยู่ที่ตรงนั้น.

ภิกษุ ท. ! เทวดาและมนุษย์พวกที่แล่นเตลิดไป เป็นอย่างไรเล่า ? คือพวกที่อึดอัดอยู่ เอือมระอาอยู่ เกลียดอยู่ ด้วยภพ (แต่) เพลิดเพลินอย่างยิ่ง อยู่กะวิภพ (ภาวะปราศจากภพ) ด้วยคิดว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลายเอ๋ย ! ได้ยินว่าอัตตานี้ ภายหลังจากการตาย เพราะการทำลายแห่งกาย ย่อมขาดสูญ ย่อมวินาศ มิได้มีอยู่ภายหลังจากการตาย : นั่นแหละเป็นภาวะสงบระงับ นั่นแหละ เป็นภาวะประณีต นั่นแหละ เป็นภาวะแน่นอนตายตัว” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้เรียกว่า พวกที่แล่นเตลิดไป.

ภิกษุ ท. ! ส่วน พวกที่มีจักษุ ย่อมเห็น (ตามที่เป็นจริง) เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเห็นธรรมที่เกิดแล้วเป็นแล้ว โดยความเป็นสิ่งที่เกิดแล้วเป็นแล้ว ครั้นเห็นธรรมที่เกิดแล้วเป็นแล้ว โดยความเป็นสิ่งที่เกิดแล้วเป็นแล้ว แล้วก็เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับไม่เหลือ แห่งธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แลเรียกว่า พวกที่มีจักษุ ย่อมเห็น (ตามเป็นจริง).


อ้างอิง
ไทย: - อิติวุ.ขุ. 25/263/227.
บาลี: - อิติวุ.ขุ. ๒๕/๒๖๓/๒๒๗.

AI ช่วยอ่าน

กรุณาคัดลอกและวางพระสูตรในช่องนี้เพื่อฟังเสียง

×

สารบัญหนังสือ