โทษแห่งอันตคาหิกทิฏฐิสิบ
วัจฉะ ! ทิฏฐิที่มีอยู่ว่า “โลกเที่ยง” ดังนี้ นั้น เป็นการจับยึดด้วยทิฏฐิ (ทิฏฐิคหณํ) เป็นความลำบากด้วยทิฏฐิ (ทิฏฐิกนฺตารํ) เป็นข้าศึกด้วยทิฏฐิ (ทิฏฐิสูกํ) เป็นความโยกโคลงด้วยทิฏฐิ (ทิฏฐิวิปฺผนฺทิตํ) เป็นความรึงรัดด้วยทิฏฐิ (ทิฏฐิสญฺโญชนํ) เป็นไปกับด้วยทุกข์ (สทุกขํ) เป็นไปกับด้วยความยากลำบาก (สวิฆาตํ) เป็นไปกับด้วยความคับแค้น (สอุปายาสํ) เป็นไปกับด้วย ความเร่าร้อน (สปริฬาหํ) ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย ความคลายกำหนัด ไม่เป็นไปเพื่อความดับ ความสงบรำงับ ไม่เป็นไปด้วยความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม ไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน เอาเสียเลย.
(ในกรณีแห่งทิฏฐิที่เหลือนอกจากนี้ ก็ตรัสไว้ด้วยข้อความอย่างเดียวกันทุกตัวอักษรกล่าวคือ :- )
วัจฉะ ! ทิฏฐิที่มีอยู่ว่า “โลกไม่เที่ยง” ….ฯลฯ ….
วัจฉะ ! ทิฏฐิที่มีอยู่ว่า “โลกมีที่สุด” ….ฯลฯ ….
วัจฉะ ! ทิฏฐิที่มีอยู่ว่า “โลกไม่มีที่สุด” ….ฯลฯ ….
วัจฉะ ! ทิฏฐิที่มีอยู่ว่า “ชีวะก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น” …. ฯลฯ ….
วัจฉะ ! ทิฏฐิที่มีอยู่ว่า “ชีวะก็อันอื่น สรีระก็อันอื่น” ….ฯลฯ ….
วัจฉะ ! ทิฏฐิที่มีอยู่ว่า “ตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมมีอีก” …. ฯลฯ ….
วัจฉะ ! ทิฏฐิที่มีอยู่ว่า “ตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมไม่มีอีก” ….ฯลฯ ….
วัจฉะ ! ทิฏฐิที่มีอยู่ว่า “ตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมมีอีกก็มีไม่มีอีกก็มี” ….ฯลฯ ….
วัจฉะ ! ทิฏฐิที่มีอยู่ว่า “ตถาคตภายหลังแต่การตาย ย่อมมีอีกก็หามิได้ ไม่มีอีกก็หามิได้” ดังนี้ นั้น เป็นการจับยึดด้วยทิฏฐิ เป็นความลำบากด้วยทิฏฐิ เป็นข้าศึกด้วยทิฏฐิ เป็นความโยกโคลงด้วยทิฏฐิ เป็นความรึงรัดด้วยทิฏฐิ เป็นไปกับด้วยทุกข์ เป็นไปกับด้วยความยากลำบาก เป็นไปด้วยความคับแค้น เป็นไปกับด้วยความเร่าร้อน ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย ความคลายกำหนัด ไม่เป็นไปเพื่อความดับ ความสงบรำงับ ไม่เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม ไม่เป็นไปเพื่อนิพพาน เอาเสียเลย.
วัจฉะ ! เราเห็นอยู่ซึ่งโทษนี้ แล จึงไม่เข้าถึงทิฏฐิที่มีอยู่เหล่านี้โดย ประการทั้งปวง.